ตำรวจทางหลวงอยุธยา ใช้ระบบ SVCC ตรวจสอบรถต้องสงสัย สกัดจับผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือกว่า 5 ล้านเม็ด

ตำรวจทางหลวงอยุธยา ใช้ระบบ SVCC ตรวจสอบรถต้องสงสัย สกัดจับผู้ต้องหาลำเลียงยาเสพติดจากภาคเหนือกว่า 5 ล้านเม็ด

พล.ต.ต.เอกราช ลิ้มสังกาศ ผบก.ทล., พ.ต.อ.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.สุขสวัสดิ์ คูสิทธิผล รอง ผบก.ทล.,พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. รับแจ้งจากสายลับว่า มีกลุ่มผู้ลักลอบลำเลียงยาเสพติด

ประกอบด้วย นายสิทธิพล เจริญงดงาม , นายตั๋ว เจริญวิภัย , นายขวัญนภัส ลี้เจริญสุวรรณ กับพวก ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ชายแดนภาคเหนือ จาก จ.เชียงราย เพื่อนำไปส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ภาคกลาง เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดกับกุม จึงได้นำข้อมูลทะเบียนรถเข้าระบบ ศูนย์ปฏิบัติการตรวจและเฝ้าระวังรถต้องสงสัย Suspect vehicle command center (SVCC) และจัดชุดสกัดกั้นเตรียมพร้อมในการจับกุม

กระทั่งพบรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคล ยี่ห้อ นิสสัน สีบอร์นทอง หมายเลขทะเบียน ณว 9662 กรุงเทพมหานคร ขับมาถึงบริเวณริมถนนสายเอเชีย ขาขึ้นเหนือ ต.ท่างาม อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น มี นายขวัญนภัส ลี้เจริญสุวรรณ เป็นผู้ขับขี่

จากการตรวจสอบ พบยาบ้า ชนิดเม็ดกลมแบนสีส้ม มีอักษร WY ประทับอยู่ด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งเรียบและสีเขียวปะปนเล็กน้อย ประทับตัวเลข 999 ด้านหนึ่ง ห่อหุ้มด้วยถุงพลาสติกสีดำ กระสอบละ 20 แพ็ค หรือ 100 มัด จำนวน 27 กระสอบ รวมเป็นยาบ้าจำนวน 2,700 มัด หรือจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5,400,000 เม็ด บรรทุกอยู่กระบะท้ายรถแบบมีหลังคาปิด

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ยังจับกุม นายสิทธิพล เจริญงดงาม และนายตั๋ว เจริญวิภัย ขับขี่รถยนต์ นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ ฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน 2กฮ 3133 กรุงเทพมหานคร ทำหน้าที่นำทาง สำรวจเส้นทางและคุ้มกันการลำเลียงยาเสพติด

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 ให้การว่า ร่วมกันรับจ้างลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ จ.เชียงราย เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี โดยได้รับค่าจ้างจำนวน 2,000,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต จากนั้นได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน บช.ปส. ดำเนินคดีต่อไป.

Cr:วิศาล สิงห์โตแก้ว/รายงาน

Back To Top